22 September 2008

เที่ยวญี่ปุ่นแบบ "หลวม หลวม"

สงสัยไหมว่าทำไมถึงตั้งชื่อหัวข้อแบบนี้ มามะ...เดี่ยวจะชี้แจงแถลงไขให้ฟังกันนะ เริ่มเรื่องมาจากสมัยไปเวียดนาม เพื่อนๆร่วมก๊วนที่ศน เปรยๆว่าทริปนี้คงไม่ใช่ทริปสุดท้ายของพวกเราใช่มะ แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ใช่!!

จากนั้นอีก 2 ปีต่อมา ก็ถึงเวลาของพวกเรา ฮิๆ แต่น่าเสียดาย ไอ้เพื่อนแต่งงานมีคู่ไปละ เหลือแต่ 2 สาว -อ้อกะแต้ว ที่ต้องผจญโลกต่อไป เรามักเปรยกันเสมอว่าอยากไปเที่ยวแล้ว จะไปไหนละ เมกาไหม....... ไม่ ยุโรปละ....... ไม่ งั้นไปญี่ปุ่นก่อน!! บอกไอ้แต้วแกมบังคับ แอบอ้างว่าจะไปเยี่ยมกุลด้วย

กุลแต่งงานมีสาละมีเป็นหนุ่มยุ่น หลังแต่งงานไปก็ย้ายไปอยู่ที่โน่น เลยได้เจอกันน้อยครั้งมาก แถมต่างคนต่างยุ่ง ยิ่งมีเจ้าคู่แฝดเพิ่มมาอีก ยิ่งหาเวลาว่างๆยาก ขนาดมาไทยยังไม่ค่อยมีเวลาจะเจอกัน งั้นเราบุกไปเจอมันที่บ้านแบบเซอไพร้ดีกว่า 555 แต่สุดท้ายมันไม่เซอไพร้ด้วย ออกเเนววิตกกังวล ว่าอี 2 ตัวนี้จะมาถึงบ้านช้านไหม

2 เดือนก่อนจะบิน...
หลังจากถกกันมานานว่าจะไปช่วงไหน ไปกี่วัน ไปไหนบ้าง จะลางานเท่าไร.... เป็นคำถามที่ตั้งไปงั้นๆอะ 555 เพราะต่างคนต่างตอบไม่ได้ ถามทีไรก็พาลไปคุยเรื่องอื่นๆซะ


สุดท้ายวันเวลาเริ่มยืดเยื้อไปนานหลายอาทิตย์ จนพวกเราปิ้งไอเดียนึงขึ้นมาว่า ปะ...ไปดูใบไม้เปลี่ยนสีกัน แถมตอนนี้เขาเปิดให้ปีนฟูจิซังด้วยนะ (เอ่อ...พูดเท่ไปงั้นละ ไม่มีแรงปีนกันหรอก แค่อยากให้ดูมี Theme เท่านั้น - -")

จากทุกแหล่งทั้ง เพื่อนฝูง โบรชัวร์ ไกด์บุค ทีวี อินเตอร์เนต ทุกที่ล้วนบอกว่า ฤดูนี้จะเริ่มตั้งแต่ปลายกันยา หรือต้นตุลา ทำไงละ นี่มันสิงหา อยากไปแล้ววววว้อยยยยย ด้วยความใจร้อน ใจมันอยาก เลยตัดสินใจไปมันช่วงนี้ละ ทั้งที่เขาว่ากันว่า มันเป็นหน้าร้อนที่ร้อนยิ่งกว่าเมืองไทย กลัวที่หนายยยย... แต่ก็แอบหวังว่าจะได้เห็นใบไม้สีแดงกะเค้าบ้าง... นะ นะ

และแล้วก็ได้วันที่จะไปละ นั่นหมายความว่าเจ้านายของเราทั้งคู่ต้องเห็นดีเห็นชอบด้วย เราทั้งคู่ต่างคนต่างแยกย้ายไปขออนุญาติกัน บอสไอ้แต้วอนุมัติผ่าน ......บอสไอ้อ้อละ หึหึ ก็ต้องผ่านด้วยสิ คุณเดนนิสใจดีอยู่แล้ว
ฮิๆ

อาทิตย์ต่อมา เรารีบไปขอวีซ่ากันที่สถานทูต ...เอ่อ...ก็ไม่รู้จะรีบขอไปทำไมอะนะ ทั้งที่ตั๋วก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะไปสายการบินอะไร จะนอนที่ไหนก็ไม่รู้ แผนเที่ยวก็ยังไม่มี แต่ก็จะขอไว้ก่อน อุ่นใจดี หลังจากนั้นอีก 2 วันรู้ผล สถานทูตอนุมติให้วีซ่าเราไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว เย้ๆๆๆๆ แล้วทำไงกันต่อดี ก็จองตั๋วเครื่องบินไงเล่า ถามได้...ช่วงนั้นโชคดีมากๆ มีโปรของ Sq ออกมา แบบเอาใจเราทั้งคู่ยิ่งนัก เพราะมันไม่แพงมากนักเหมือนที่เจ้าอื่นๆ หรือเอเย่นเค้าขาย จึงไม่รีรอที่จะซื้อผ่านเนตมันซะเลย ...ด้วยความอนุเคราะห์จากผองเพื่อนที่ออฟฟิตสอนสั่งแนะนำ การซื้อตั๋วทางเนตนี้ก็ผ่านมาด้วยดี แต้งกิ้วนะฮ้า

อุ่นใจเล็กๆละ ว่าอย่างน้อยก็มีตั๋วไปกลับละ สบ้ายยย... แล้วทั้งไอ้อ้อและไอ้แต้วก็ทำใจอุ่นกันอยู่นาน ใช้ชีวิตเฉกเช่นพนักงานกินเงินเดือนเหมือนคนอื่นทั่วไป วันเวลาผ่านพ้นไปจนเหลืออีกแค่ 1 อาทิตย์ก่อนบิน เพื่อนๆเริ่มถามละ
Q: เฮ้ย! อ้อ แกจะไปเที่ยวเมื่อไหร่วะ จะไปไหนบ้าง?
A: ไป 25 นี้ แต่จะไปไหน ไม่รู้วะ ถามไมวะ จะฝากซื้อไร ว่ามาเลย เอาตังค์มาด้วยนะ ไม่ให้ไม่ซื้อนะ 555
Q: ...!@#$%^&*

ก็ทำตลกกันไป หลังจากนั้น กลับมาคิด อืม.... ชิบ_ายละ จวนไปแล้วสิ จะไปไหนบ้างนิ ที่พักอีก ยังไม่หาเลยนี่หว่า ...ยิ่งคิดยิ่งไม่พร้อมจะไปเที่ยว ส่วนงานก็ยังคาราคาซังอยู่ ทำไงดีๆ ต้องเริ่มคิดละ... ในหัวก็พอจะกะคร่าวๆได้ว่า เราจะไปเที่ยวที่ไหนของญี่ปุ่นบ้าง ดูจากพันทิพ โบรชัวร์ในนสพ. จนจับใจความได้ว่า เขาไปเที่ยวอะไรกัน... และแล้วแผนทัวร์ของเราก็ปรากฏโฉมหน้าตามนี้ เริ่มจากเมืองต่างๆที่จะไปคือ เกียวโต โอซาก้า นารา ทาคายาม่า นิคโก้ โยโกฮาม่า และโตเกียว ตามลำดับ แต่ถ้าถามว่าแต่ละที่ไปเที่ยวไหนบ้าง จะตอบไม่ได้ละ ยากส์ ไว้ไปถึงค่อยคิด... ซึ่งนี่ละเป็นจุดที่เราเรียกว่า เที่ยวญี่ปุ่นแบบ "หลวม หลวม" เอาตัวรอดไปวันๆ 555


ดูจากเส้นทางที่จะไป คงต้องมี JR Pass (บัตรเบ่งที่ใครๆก็พูดถึง เราจะไม่มี ไม่ได้อยู่แล้ว ไปตั้ง14 วัน ค่ารถไฟคงอ่วมแน่) เราทั้งคู่รีบตกลงกันว่าพุธนี้ กลางวันเราจะแว่บออกไปซื้อ JR กัน ใช้แบบ 7 วันก็คงพอสำหรับเดินทางไปเมืองไกลๆ แล้วแวะไปแลกตังค์ด้วย

ต่อจากนั้นคืนวันพุธนี้เอง ก็เป็นเวลาของการจองที่พัก ซึ่งหลายคนเป็นห่วงมาก ว่าพวกแก 2 ตัวจะนอนไหน นอนข้างถนนไหม ไม่เอาน่ามันคงไม่เป็นอย่างงั้น แล้วด้วยความที่พอจะอ่านพันทิพบ้าง ดูตัวอย่างที่เขารีวิวที่พักมา ถามเพื่อนๆบ้าง ก็พอจะมีที่พักในใจละ

...เอาละรีบจองดีกว่า พอเริ่มเปิดเวบ ที่พักส่วนมากเขาจะแนะนำให้จองล่วงหน้ากัน เดือน 2 เดือน แล้วนี่ตูจะไปอีก 4วัน 5วัน จะมีที่ไหมนี่ ความกังวลเริ่มมาทักทายอีกหน - -" เพราะว่ามันเต็มไปซะส่วนใหญ่ เอาไงนิ ลองหาจากเว็บ hostelworld อีกหน ไล่จองทุกที่ ที่คิดว่ามันดี ตามใจตัวเองสุดๆ (ก็ไอ้แต้วมันอนุญาติแล้วนี่) ก็เลือกอันที่เหมาะสม เอาแบบไม่แพงนัก นอนเสื่อทาทามิ มียูกาตะให้ใส่ นอนเรียวกังบ้าง พอให้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นบ้าง เอาสะดวกหรูบ้าง ปะปนกันไป แล้วก็จองๆไปให้ครบ ในใจก็หวังให้เขา reply email กลับมาไวๆ ว่าโอเค คอนเฟิมนะ ยูมานอนได้ ไอจะได้ไม่ต้องหาที่ต่อไปแล้ว ดึกแล้วจะไปนอน!!!

วันพฤหัสบดีสีส้มมาเยือน เช็คเมล์เช้า กลางวัน เย็น นั่งเช็คว่ามีที่ไหนคอนเฟิมบ้าง ที่ไหนต้องหาใหม่บ้าง สลับวันที่จะไปพักบ้าง วุ่นทั้งวัน แทบไม่เป็นอันทำงาน สุดท้ายก็ได้ครบ ยกเว้นที่นิคโก้ คุณลุงเจ้าของที่พักตอบช้าจริงวุ้ย... อืมม ถึงลุงจะตอบช้า หนูก็ไม่หาเจ้าใหม่นะ 555 ไม่ใช่หนูมี Brand royalty ต่อที่นี่หรอก แต่หนูขี้เกียจหาที่อื่นต่างหาก :) น่าน...กว่าลุงจะตอบ ก็สายๆของวันศุกร์โน่น ทำอินดี้เชียวนะลุง ไม่รีบง้อลูกค้าเลย ลูกค้าแอบใจแป้วไปแล้วนะลุงนะ

สรุปที่ซุกหัวนอนได้ครบทุกที่ละ ทำตารางการเดินทางซักนิดให้พ่อแม่ของทั้งคู่รู้ว่า ลูกสาวจะไปร่วมหัวจมท้ายที่ญี่ปุ่นนั่น มันไปส่วนไหนกัน พักไหนบ้าง ฉุกเฉินจะติดต่อที่ไหน เพราะไม่มีใครเอามือถือไป แล้วก็เหลือแต่จัดกระเป๋า แพคของ แบกไปสุวรรณภูมิจันทร์ที่จะถึงนี้ได้เลย.... ลั้นลาจริงๆวุ้ย

ปล. สามารถติดตามดีเทลของแต่ละที่ที่ไป แต่ละที่ที่นอน ของดีๆที่เห็น ได้อีกในโอกาสต่อไป (ไม่รู้ว่านานไหม แต่คงนานแหละ รอไปเลย)

6 comments:

Anonymous said...

เข้ามาอ่านแล้วนะ สนุกดี อยากอ่านตอนต่อไป

Anonymous said...

ขออีกรอบ เมื่อกี่ดันเลือกเป็น anonymous ...แล้วจะเข้าไปอ่านอีกนะ รออ่าน

Anonymous said...

เก่งจังเลยน้องอ้อ เด็กแนวจริงๆ
รออ่านต่อด้วย

Anonymous said...

แวะมาอ่านทริปหลวมๆ

รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า...^^

ขอบคุณสำหรับของฝากนะค๊า

Anonymous said...

ดูสภาพตัวแก ไม่น่าหลวมนะ น่าจะ "คับติ้ว" มากกว่า

ให้ไว รอภาพนักเรียนญี่ปุ่นอย่างใจจดใจจ่อ

แปลภาษาฝรั่งเศส said...

แล้วจะหวนกลับมาอ่านอีกครั้งค่ะ